5 อันดับแหล่งน้ำอันตรายที่สุดในโลก

แม้จะมีคำกล่าวว่า น้ำคือชีวิต แต่ก็ใช่ว่า น้ำทุกที่จะดีต่อใจและร่างกายเสมอไป เหมือนอย่างแหล่งน้ำดังต่อไปนี้นอกจากจะแปลกตาแล้วยังเต็มไปด้วยความอันตรายต่อคนเราและสิ่งแวดล้อมด้วย

น้ำคือชีวิต ถ้าแหล่งน้ำนั้นเป็นแหล่งน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ และมนุษ์สามารถใช้ในการอุปโภค บริโภค หรือแม้กระสัตว์สามารถใช้ดื่มกินได้ด้วย แต่ยังมีแหล่งน้ำที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถใช้ในการดำรงชีวิต และใช้ในการอุปโภค บริโภคไม่ได้และยังเป็นอันตรายอีกด้วย

1.น้ำตกสีเลือด

หากได้ฟังเสียงน้ำตกกระทบโขดหินกลางป่าพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ คงช่วยเพิ่มพลังจากการ เหนื่อยล้า แต่ฝันนั้นอาจจะถูกดับลง ถ้าได้มาเห็นน้ำตกสีแดงฉานเหมือนเลือดในแอนตาร์กติกา

ซึ่งความแดงแรงฤทธิ์เหล่านี้ ไม่ได้มีใครไปสาปเอาไว้ แต่ธรรมชาตินี่แหละตบตาเรา ตอนแรกเชื่อกันว่ามาจากสาหร่ายสีแดง แต่เมื่อสแกนชั้นน้ำแข็งโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ พบกับความจริงที่น่ากลัวไม่แพ้สีของมันเลย

เนื่องจากในนั้นมีธาตุเหล็กปะปนอยู่สูงมาก เมื่อเจอกับออกซิเจนจึงเกิดปฏิกิริยา ออกซิเดชั่น จึงกลายเป็นสีแดง นอกจากนี้ด้วยความที่ใต้ภูเขาน้ำแข็งอุดมไปด้วยเกลือที่เข้มข้น น้ำตกที่ควรจะเป็นน้ำแข็งจึงไม่แข็งตัวและยังคงไหลเอื่อยๆ อยู่ตลอด

2.แม่น้ำชิทารุม

เราอาจเคยพบเห็นความสกปรกของแม่น้ำที่ไหลผ่านแหล่งชุมชนกันบ่อยๆ แต่คงเทียบไม่ได้เลยกับแม่น้ำที่ขึ้นชื่อว่าสกปรกที่สุดในโลกอย่างชิทารุนในอินโดนีเซียแน่ๆ แม้จะเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชุมชน

กว่า 25 ล้านคน แต่ความที่มีมลพิษมากมายจากขยะ ต่อให้ไม่แคร์แค่ไหนก็ต้องมีชะงัก หากถามว่าความเป็นพิษเหล่านั้นมาจากไหนคำตอบคือ จากกิจวัตรประจำวันของเรานี่แหละ ที่ก่อให้เกิดมลพิษอย่างมหาศาล

ซึ่งประเมินออกมาว่าแม่น้ำสายนี้มีขยะกว่า 2 หมื่นตัน โดยส่วนใหญ่เป็นประเภทย่อยสลายไม่ได้ และยังมีสารปนเปื้อนของสารเคมีและโลหะหนักมากมาย เลยทำให้การประมงหายไปและแทนที่ด้วยอาชีพเก็บของเก่าขายแทน

จนกระทั่ง ปี 2008 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียได้อนุมัติเงินจำนวนกว่า 15000 ล้านบาท เพื่อทำความสะอาดแม่น้ำสายนี้โดยเฉพาะ

3.เดอะสตริด แม่น้ำวาฟแห่งเมืองยอร์กเชียในอังกฤษ

ถือว่าเป็นสวรรค์ของการปิกนิคท่ามกลางธรรมชาติเลยก็ว่าได้ ใครจะคิดว่าใต้ความสวยงามแบบนี้มีความลึกลับน่าสะพรึงกลัว มีจุดหนึ่งที่เป็นโขดหินหรือชื่อเรียกว่า เดอะสตริด ระยะห่างระหว่างสองฝั่งเกือบๆ 2 เมตร

ช่างดึงดูดให้มาเดินและโดดข้ามเล่น แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าหลงกล หรือพลาดท่าเข้าล่ะก็ ใต้น้ำนั้นคือเหวลึกและมีน้ำวน โดยแม่น้ำที่ไหลมารวมกันถูกบังคับให้เจอกับแหล่งน้ำแคบๆ

ทำให้กระแสน้ำข้างล่างไหลเร็วกว่าที่มองเห็นด้านบน และมีความรุ่นแรงพอจะดูดคนที่ตกลงไป จัดมาอันตรายมาก จนขนาดว่ามีการติดป้ายห้ามลงน้ำ

4.แม่น้ำโพโทแมก

แม่น้ำสายสำคัญทางตอนกลางของสหรัฐที่ทอดยาวไปตามฝั่งถึง 652 กิโลเมตรแบบนี้ ใครจะรู้ว่านอกจากความใสสะอาดน่าล่องเรือแล้ว ยังซ่อนอันตรายเอาไว้เพียบ หากพลาดตกลงไป

กระแสน้ำไหลแรงมหาศาลจะดึงลงเหมือนแม่น้ำดูดหายวับไปกับตา แค่นั้นยังไม่พอยังมีนักล่าอย่างฉลามหัวบากว่ายวนไปมา นอกจากนี้นอกชายฝั่งยังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัวต์ร้ายหลายพันธุ์ชนิด ทั้งงูพิษ ค้างคาว และแมงมุมพิษ อีกด้วย อันตรายรอบด้านเลยจริงๆ

5.แม่น้ำริโอ ทินโท

เจอครั้งแรกนึกว่าหลุดไปดาวอังคารแต่พอขยี้ตา นี่คือแม่น้ำริโอ ทินโท ในประเทศสเปนสีแดงสด กำลังบอกว่าอย่าเข้าใกล้ นั่นเพราะมาจากแถวนั้นมีเหมืองเก่าแก่มานานหลายศตวรรษ

ดังนั้นมลพิษจากการทำเหมืองจึงไหลลงสู่แม่น้ำและสะสมไปเรื่อยๆ พอนานวันเข้าก็สะสมทำให้ใต้แม่น้ำเต็มไปด้วยโลหะหนักหลายชนิด ทั้งทองคำ เงิน หรือ ทองแดง ผสมปนกัน พอมาเจอแบตทีเรีย จึงเกิดการอกซิเดชั่น ทำให้น้ำกลายเป็นกรด pH1.7-2.5 แต่ถึงอันตรายแค่ไหน ความแปลกและมหัสจรรย์ของที่นี่ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว

หรือสามารถเข้ารับชมวีดีโอเพิ่มเติมได้ ที่นี่