ประเทศที่รวยที่สุดในโลก GDP gross domestic product หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หมายถึงรายได้ที่เกิดขึ้นจากประชาชนในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างเงินเดือน กำไรจากการขายสินค้า ดอกเบี้ยหรือค่าเช่า เป็นต้น เป็นตัวบ่งบอกฐานะของประเทศต่างๆ ในบางประเทศแม้จะมี GDP สูงแต่ถ้ามีประชากรจำนวนมากก็อาจลดทอนความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศนั้นลงในทางเศรษฐศาสตร์หากต้องการเปรียบเทียบฐานะของประเทศต่างๆให้เห็นอย่างชัดเจนก็จะนำจำนวนประชากรมาหาร ออกมาเป็นรายได้รายหัวต่อคนต่อปี
ประเทศที่รวยที่สุดในโลก 5 อันดับ มีที่ไหนบ้าง
อันดับที่ 5 ไอร์แลนด์ GDP 83399 ดอลลาร์
ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่ใช้กลยุทธ์เก็บภาษีภาคธุรกิจในอัตราที่ต่ำจึงดูดให้บริษัทยักษ์ใหญ่จากทั่วโลกมาตั้งฐานการผลิตที่นี่โดยเฉพาะธุรกิจด้านการบริการอย่างคอลเซ็นเตอร์การทำบัญชีการให้บริการหลังการขายหรือ customer service และธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ผนวกกับรายได้จากการท่องเที่ยวการเกษตรและภาคการผลิตอื่นๆ ส่งออกโลหะ เบียร์ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนซอฟต์แวร์ทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งและแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในยุโรป อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะในหมู่ประชากรที่มีอยู่เกือบ 5 ล้านคน โดย 20% ของชาวไอร์แลนด์ที่มีฐานะดีมีความมั่งคั่งสูงกว่าทุน 20% ที่เป็นชาวรากหญ้าราว 5 เท่าตัว
อันดับที่ 4 สิงคโปร์ GDP 103181 ดอลลาร์
ประเทศเล็กๆที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อปี 1965 ทั้งประชากรและผู้นำ ทำงานอย่างหนักในการพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมชาติอื่นแม้จะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเป็นของตัวเองได้สิงคโปร์ก็สามารถจัดสภาพแวดล้อมในประเทศไทยเหมาะแก่การลงทุนกำหนดนโยบายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการทำการค้าเสรี เป็นนายหน้าในการซื้อขายสินค้ากับนานาชาติได้และไม่ได้ผลิตสินค้าขึ้นมาเองและเป็นศูนย์กลางทางการเงินในอาเซียนไม่มีการเก็บภาษีจากกำไรหรือเงินปันผลจากการลงทุนและผู้ที่รวยที่สุดในประเทศก็คือจางหยกมหาเศรษฐีระดับหมื่นล้านดอลลาร์ที่ร่ำรวยที่ได้จากการทำธุรกิจร้านอาหาร
อันดับที่ 3 ลักเซมเบิร์ก GDP 108951 ดอลลาร์
ประเทศเล็กๆใจกลางแผ่นดินยุโรปที่ไม่มีทางออกทะเลแต่ก็ร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นผ่านทางวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทัศนียภาพในชนบทที่สวยงามและปราสาทราชวังเก่าแก่มากมายประชากรราว 6 แสน คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีการศึกษาสูงในอดีตเคยมีรายได้จากอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะก่อนจะมาเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่สำคัญของยุโรป สวรรค์ของการลงทุนเป็นศูนย์กลางของการจัดตั้งกองทุนขนาดใหญ่ระดับโลกเพื่อการลงทุนในรูปแบบต่างๆมีการปกป้องความลับของนักลงทุนต่างชาติที่มาเปิดบัญชีเงินหมุนเวียนข้ามชาติที่นี่และคิดอัตราภาษีในระดับที่ต่ำ
อันดับที่ 2 มาเก๊า GDP เป็นชาย 114363 ดอลลาร์
เกาะขนาดเล็กที่มีพื้นที่เพียง 30 ตารางกิโลเมตรแต่มีคาสิโนอยู่มากกว่า 40 แห่งเป็นดินแดนที่เคยอยู่ในการดูแลของโปรตุเกสมาก่อนและได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการเล่นการพนันได้อย่างเสรีในภูมิภาคนี้ มีรายได้จากการท่องเที่ยวและปราศจากหนี้สิน ปัจจุบันมาเก๊ากลับมาอยู่ใต้การปกครองของจีนและมีโครงสร้างรายได้ให้กับแผ่นดินแม่ให้อย่างต่อเนื่องเป็นการเปรียบเทียบในเชิงหลักการ การที่มีประชากรชาวมาเก๊าเพียง 6 แสนคนก็ทำให้ดินแดนแห่งนี้คว้าอันดับ 2 ของประเทศที่รวยที่สุดในโลกไปครอง แม้ในเชิงรัฐศาสตร์จะไม่ได้เป็นประเทศก็ตาม
อันดับที่ 1 การ์ตา GDP 132886 ดอลลาร์
การ์ตา มีความคล้ายกับยูเออีตรงที่เป็นเมืองทำประมงเล็กๆก่อนที่จะค้นพบน้ำมันในปี 1939 และนำรายได้เข้าประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ จากการส่งออกน้ำมันก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง จนกระทั่งมาเกิดโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อ 50 ปีมานี้ หลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษ ระบบสาธารณูปโภคด้านระบบสวัสดิการสังคมเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆทั่วโลก ได้รับผลตอบแทนที่ดีทำให้เม็ดเงินงอกเงยส่งผลดีให้ประชากรที่มีอยู่เพียง 2800000 คนอย่างถ้วนหน้าและเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
#alloveraround #5 อันดับ #ประเทศที่รวย #ปราสาทสวยในประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพจาก