8 อันดับหนังแนวก่อการร้ายที่คุณไม่ควรพลาด#1

8 อันดับหนังแนวก่อการร้ายที่คุณไม่ควรพลาด#1

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังหาความบันเทิงในชีวิตจากการที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน แต่ไม่รู้จะทำอะไรดีทางเรามีภาพยนตร์ที่น่าสนใจให้คุณได้ลองสัมผัสความสนุกกับภาพยนตร์เหล่านี้กัน

ซึ่งในบทความครั้งนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 8 อันดับหนังแนวก่อการร้ายที่คุณไม่ควรพลาด กันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูเนื้อเรื่องพร้อม ๆ กันเลย

1. Patriots Day

วันที่ 15 เมษายน 2013 มุสลิมสองพี่น้อง Tamerlan Tsarnaev (Themo Melikidze) กับ Jahar Tsarnaev (Alex Wolff) วางระเบิดในงานวิ่งมาราธอนประจำปีกลางเมืองบอสตัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงคู่รัก Jessica Kensky (Rachel Brosnahan) และ Patrick Downes (Christopher O’Shea) ที่ต้องเสียขาจากแรงระเบิดระยะประชิด ทีมตำรวจบอสตันกับวอเตอร์ทาวน์ รวมถึงทีม FBI นำโดยจ่า Tommy Saunders (Mark Wahlberg จาก Deepwater Horizon), Richard DesLauriers (Kevin Bacon), Ed Davis (John Goodman) และจ่า Jeffrey Pugliese (J.K. Simmons จาก Whiplash) จึงระดมกำลังกันตามจับสองพี่น้องผู้ก่อการร้าย  “Patriots Day” คือ เรื่องราวอันทรงพลังของชุมชนชาวบอสตัน ที่รับมือกับเหตุการณ์วางระเบิด บอสตัน มาราธอนด้วยความกล้าหาญ หนังเขย่าขวัญสุดระทึกที่ตีแผ่การตามล่าคนร้ายที่ซับซ้อนที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา

2. Eye In The Sky

การใช้โดรนทำสงครามเต็มรูปแบบมีความยากลำบากทางจริยธรรม ซึ่ง “Eye in the Sky” ถ่ายทอดประเด็นนี้ได้ “Eye in the Sky” ภาพยนตร์สะท้อนความจริงของสงครามยุคใหม่ที่ต่อสู้ด้วย “โดรน” หรืออากาศยานไร้คนขับ การนำสื่อดิจิตอลในสมัยนี้เข้าร่วมถ่ายทอดเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีของภาพยนต์เรื่องนี้ที่ได้นักแสดงดาราตุ๊กตาทองอย่าง Helen Mirren นำแสดง เธอรับบทเป็นทหารอังกฤษระดับบังคับบัญชาที่ต้องตัดสินใจใช้โดรนระบุตำแหน่งผู้ก่อการร้ายและโจมตีเป้าหมายในกรุงไนโรบีประเทศเคนยา แม้ว่าเทคโนโลยี “โดรน” ปฏิวัติการทำสงคราม เพราะประเทศมหาอำนาจไม่ต้องส่งทหารลงพื้นที่ แต่การตัดสินใจโจมตีที่ทำได้ง่ายขึ้นทางเทคนิค เต็มไปด้วยความยากลำบากทางจริยธรรมและกฎหมาย ซึ่ง “Eye in the Sky” ถ่ายทอดประเด็นดังกล่าวได้อย่างละเอียดอ่อน

3. Unthinkable

ยังเกอร์ (Michael Sheen) อดีตทหารหน่วยเดลต้าหันไปนับถือศาสนาอิสลามและเขาได้ขู่วางระเบิดนิวเคลียร์ในอเมริกาจำนวน 3 ลูกในอีก 3 วันข้างหน้า เมื่อทหารจับตัวเขาได้จึงต้องนำตัวมาสอบสวนเพื่อให้เขาสารภาพว่าระเบิดทั้ง 3 ลูกซ่อนอยู่ที่ไหน กระทรวงยุติธรรมจึงได้ให้อำนาจ ‘เฮช’ (Samuel L. Jackson) ในการทรมานนักโทษ และเขาก็ได้ขอให้ ‘โบรดี้’ (Carrie-Anne Moss) เป็นคนคอยใช้น้ำเย็นเข้าลูบหลังจากนักโทษถูกทรมานอย่างหนัก แก่นของเรื่องนี้คือการตั้งคำถามตบหน้าเส้นคาบเกี่ยวระหว่างศีลธรรม สมมุติคนร้ายขู่วางระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถฆ่าคนได้หลักพันหลักหมื่นคน คุณยินดีที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเค้นให้นักโทษบอกที่ซ่อนหรือไม่ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการทรมานนักโทษอย่างโหดร้าย แล้วคนที่นิ่งเฉยนั่นหมายถึงคุณยอมรับรูปแบบการทรมานนักโทษใช่หรือไม่

4. Munich

ในเดือนกันยายน ปี 1972 การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ถูกตีแผ่สดๆ ต่อหน้าคนดูโทรทัศน์กว่า 900 ล้านคนทั่วโลก และนำมาซึ่งโลกใหม่แห่งความรุนแรงที่คาดเดาไม่ได้ มันคืออาทิตย์ที 2 ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน และในมิวนิค เยอรมันตะวันตก เกมการแข่งขันที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นโอลิมปิกแห่งความสงบและความสุข เดินหน้าไปสู่จุดเริ่มต้นอันเร้าใจ เมื่อกลุ่มชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรง ที่รู้จักกันในชื่อแบล็คเซปเทมเบอร์ได้บุกหมู่บ้านโอลิมปิก และลงมือสังหารสมาชิกสองคนของทีมโอลิมปิกอิสราเอล และยังจับตัวประกันเอาไว้อีก 9 ราย การสังหารหมู่ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่ต่อมาได้ถูกนำเสนอผ่านทางโทรทัศน์ต่อหน้าคนทั่วโลก และสิ้นสุดในอีก 21 ชั่วโมงต่อมาเมื่อ จิม แม็คเคย์ ได้กล่าวถ้อยคำที่ตามหลอกหลอนว่าพวกเขาตายหมดแล้ว แอฟเนอร์ (อีริก บาน่า) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหนุ่มชาวอิสราเอลผู้รักชาติ แอฟเนอร์ที่ยังคงเศร้าสลดไปกับเหตุการณ์สังหารโหดที่มิวนิค

#alloveraround #8อันดับ #หนังแนวก่อการร้าย#ภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด

ขอบคุณภาพจาก

  • pantip.com
Facebook
Twitter
Pinterest
Reddit